Voopoo Drag Nano 2
Drag Nano 2 แตกต่างจากซีรีย์ DRAG รุ่นก่อนๆ ตรงที่มีขนาดเล็กแต่ทรงพลัง และไม่เพียงแต่ทำให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นระดับมืออาชีพ แต่ยังปรับแต่งอย่างสร้างสรรค์ทำให้รูปลักษณ์มีขนาดเล็กลงและสวยงามยิ่งขึ้น
ด้วยคุณสมบัติลดความซับซ้อนของภายนอกแต่คงความแข็งแกร่งไว้ภายใน Drag Nano 2 จะมอบประสบกาณณ์การสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่เหมือนใครอย่างแน่นอน
พอตไฟฟ้ารุ่นใหม่จากค่าย Voopoo รุ่น Drag Nano 2 เป็นการผสมผสานกันระหว่าง ซีรี่ย์ Drag และซีรี่ย์ Vinci เข้าด้วยกัน ซึ่งแน่นอนว่าทั้งสองซีรีย์นี้เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
ตัวเครื่องจะมีลักษณะพิเศษคือมีขนาดเล็กมากๆ สามารถปรับไฟได้ 3ระดับ มีระดับอะไรบ้างนั้น ดูได้ในเนื้อหาด้านล่างนี้ แต่ก็อย่างที่บอกตอนแรก ว่าเจ้าตัว Drag Nano 2 นี้ ใช้หัวเดียวกับ Vinci Pod
ซึ่ง Vinci Pod นั้นไม่สามารถปรับไฟได้จึงทำให้มีฟิลสูบเพียงแค่ฟิลเดียว แต่ Drag Nano 2 ปรับไฟได้ถึง 3 ระดับจึงทำให้เลือกฟิลการสูบได้หลากหลายกว่าแถมยังมีปุ่มให้ปรับรูลมเพิ่มได้อีกด้วย !!!
สารบัญ
- คอยล์ที่ใช้กับเครื่อง Drag Nano 2
- รีวิวบุหรี่ไฟฟ้า Drag Nano 2 ฉบับวีดีโอ
- Feature การใช้งาน
- Parameters
- เกี่ยวกับวัสดุและสีของตัวเครื่อง
- ข้อดี
- วิธีใช้งาน
- วิธีเช็คสถานะแบตเตอรี่ Drag Nano 2
- ของที่มีมาให้ในกล่อง
- สรุป
คอยล์ที่ใช้กับเครื่อง Drag Nano 2
คอยล์ Drag Nano 2 จะถูกติดตั้งมาพร้อมกับหัวแทงค์ ไม่สามารถถอดออกแยกจากกันได้ หากต้องการเปลี่ยนคอยล์ก็เพียงแค่ดึงหัวแทงค์เก่าออกแล้วใส่อันใหม่เข้าไปแทน
ซึ่งคอยล์ Drag Nano 2 จะมีให้เลือก สองเบอร์ โดยที่แต่ละเบอร์ก็จะให้ฟิลลิ่งการสูบที่แตกต่างกันออกไปรวมถึงในเรื่องของระดับนิโคตินด้วย
รีวิวบุหรี่ไฟฟ้า Drag Nano 2 ฉบับวีดีโอ
Feature การใช้งานของ Voopoo Drag Nano2
ปรับไฟได้ 3 ระดับ
คุณสามารถปรับไฟได้ตามความต้องการ โดยที่ตัวเครื่องจะใช้สีของไฟ LED เพื่อบอกว่าตอนนี้เครื่องปรับไฟอยู่ที่ระดับไหน โดยแบ่งออกได้เป็น 3 ระดับ ดังนี้
1. ไฟสีขาว คือ ระดับไฟแรงสูงสุด
2. ไฟสีเขียว คือ ระดับไฟกลาง
3. ไฟสีฟ้า คือ ระดับไฟต่ำสุด
ระบบรูลมที่ปรับได้ละเอียด
นวัตกรรมระบบไหลเวียนของอากาศที่ไม่มีที่สิ้นสุดของ Drag Nano 2 รองรับการควบคุมขนาดของรูลมทุกขนาด คุณจะได้รับประสบการณ์ที่สะดวกสบายที่สุดผ่านระบบนี้ไม่ว่าจะใช้ขดลวดชนิดใดหรือตั้งค่าไฟในระดับใด ก็สามารถเพลิดเพลินกับรสชาติของคุณได้อย่างอิสระ
เติมน้ำยาจากด้านบน
Drag Nano 2 ถูกออกแบบให้เติมน้ำยาจากด้านบน โดยที่ไม่ต้องถอดหัวแทงค์ออกจากตัวเครื่องเลย แถมการเติมน้ำยาจากด้านบนนี้ยังช่วยป้องกันการรั่วซึมได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
สายคล้องคอ
ในส่วนของสายคล้องคอจะมีแถมมาให้ในกล่อง ซึ่งทำให้เราพกพาไปไหนมาไหนสะดวก แถมยังหยิบมาสูบเมื่อไหร่ก็ได้ง่ายๆ
หัวแทงค์ใสมองเห็นได้ชัดเจน
คุณสามารถมองเห็นปริมาณน้ำยาในหัวแทงค์ได้อย่างเรียลไทม์ ไม่ต้องกังวลว่าน้ำยาจะหมด หรือแห้งแทงค์
รองรับหัวของ Vinci Pod
ในกรณีถ้าหากคอยล์ของ Drag Nano 2 เกิดขาดตลาดเราสามารถใช้ คอยล์ของ Vinci Pod แทนกันได้นั่นเอง ถือว่าเป็นแผนสำรองเผื่ออนาคตละกันนะ
Gene Chip
การสูบแบบออโต้มีการตอบสนองด้วยความไวสูงจากเซนเซอร์และ Gene Chip ทำให้การจุดระเบิดรวดเร็วมาก
Parameters Voopoo Drag Nano 2
Drag Nano 2
- ความจุของแทงค์ : 2 ML
- วัสดุ : PCTG
- ความต้านทาน : 0.8Ω และ 1.2Ω
- ขนาด : 72 * 44 * 14.2 mm
Mod Parameters
- ชื่อรุ่น : Drag Nano 2
- วัสดุ : Zinc alloy + Leather/PC
- Output Power : 8-20W
- Output Voltage : 3.2 ~ 4.2V
- รับความต้านทานได้ : 0.1 ~ 3.0Ω
- ความจุแบตเตอรี่ : 800 mAh (เป็นแบตเตอรี่ภายใน ติดมากับเครื่อง)
เกี่ยวกับวัสดุและสีของตัวเครื่อง
Drag Nano 2 มีให้เลือกทั้งหมด 8 สี โดยเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความคลาสสิกและเทรนด์ โดยวัสดุของฝาข้างจะแบ่งเป็น สองแบบหลักๆ
1. วัสดุฝาเครื่องแบบโลหะ จะให้อารมณ์สดใสและโปร่งแสงได้แก่สี Sparkle Champagne , Powder Blue , Carbon Fiber
2. วัสดุฝาเครื่องแบบหนังอีกรูปแบบหนึ่งที่ยืมไอเดียมาจาก Drag S Pro ซึ่งผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างโลหะกับหนัง ได้แก่สี Tea Green , Gull Grey , Orange , Classic Black , Classic Red
ข้อดี Drag Nano 2
- เติมน้ำยาจากด้านบนพร้อมกับหัวแทงค์ที่ใสมองเห็นง่าย
- สามารถใช้คอยล์ร่วมกับ คอยล์ Vinci Pod ได้
- มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่น ไม่เหมือนใคร
- ขนาดเล็กระดับ นาโน แต่ยังคงประสิทธิภาพสูง
- สามารถปรับไฟได้ 3 ระดับ
- พกพาไปข้างนอกสะดวก แถมยังใช้งานง่าย
- มีระบบป้องกันน้ำยาซึม
วิธีใช้งาน Voopoo Drag Nano 2
เนื่องจากตัวเครื่อง Drag Nano 2 ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มต้นใช้บุหรี่ไฟฟ้าก็ไม่ต้องกังวลไปนะ เพราะขั้นตอนการใช้งานง่าย เราจะอธิบายให้ฟัง Step By Step กันเลย
- บิดปากสูบสีดำ ที่หัวแทงค์ออก (ในขณะที่บิดออกให้ใส่หัวแทงค์ไว้กับตัวเครื่องนะ)
- ดึงจุกยางสีดำฝั่งที่มีลูกศรชี้ออกมา หลังจากนั้นเติมน้ำยาเข้าไปให้เกือบเต็ม (80-90% ของแทงค์) หลังจากนั้นให้รีบปิดจุกยางทันที ห้ามเปิดทิ้งไว้ จะทำให้น้ำยารั่ว
- ใส่ปากสูบกลับเข้าที่เดิม หลังจากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที (สำหรับการเติมน้ำยาครั้งแรกเท่านั้น)
- เปิดเครื่อง และเริ่มต้นสูบได้เลย
คำแนะนำในการใช้งาน
ผู้ใช้สามารถปรับไฟได้ตามความชอบ โดยเลือกปรับทีละระดับแล้วลองสูบดู ถ้าชอบอันไหนก็เลือกแบบนั้น และในส่วนของรูลมก็เช่นกันชอบแบบไหนปรับแบบนั้น
ในเรื่องของการปรับไฟและรูลมเป็นคำถามที่พบบ่อยมากว่าปรับแบบไหนดี ? คำตอบคือ ไม่มีแบบไหนดีที่สุด เพราะว่าเป็นเรื่องของความชอบส่วนบุคคล เพราะฉะนั้นหาจุดที่เราสูบแล้วแฮปปี้ที่สุดดูนะ
วิธีเช็คสถานะแบตเตอรี่ Drag Nano 2
หลายๆท่านคงจะสงสัยแล้วแบบนี้จะรู้ได้ยังไงหละว่าเมื่อไหร่แบตจะหมดหรือเมื่อไหร่ควรจะต้องชาร์จแบต อธิบายง่ายๆคือ ไฟ LED ที่เอาไว้ดูเรื่องการปรับไฟ สามารถใช้ดูแบตเตอรี่ได้ด้วยเช่นกัน
โดยไฟจะแสดงสถานะดังนี้
- หากไฟ LED ขึ้นสีเขียว 3 เม็ด หมายความว่า แบตเตอรี่ มีความจุ 100% ~ 66%
- หากไฟ LED ขึ้นสีเขียว 2 เม็ด หมายความว่า แบตเตอรี่ มีความจุ 66% ~ 33%
- หากไฟ LED ขึ้นสีเขียว 1 เม็ด หมายความว่า แบตเตอรี่ มีความจุ น้อยกว่า 33%
- หากไฟ LED ขึ้นสีแดง 3 เม็ด หมายความว่า แบตเตอรี่กำลังจะหมด ต้องชาร์จได้แล้ว
ของที่มีมาให้ในกล่อง Packing List
- 1x ตัวเครื่อง Drag Nano 2
- 1x หัวแทงค์พร้อมติดตั้งคอยล์เบอร์ (0.8Ω)
- 1x หัวแทงค์พร้อมติดตั้งคอยล์เบอร์ (1.2Ω)
- 1x สายชาร์จ Type-C
- 1x คู่มือการใช้งาน
- 1x สายคล้องคอ
ระบบป้องกันความปลอดภัยมากถึง 7 ระบบ
เห็นตัวเล็กๆ แบบนี้ ไม่ได้เน้นแต่ประสิทธิภาพนะ เค้าเน้นถึงความปลอดภัยในการใช้งานอีกด้วยต่างหาก
Output Over-Current Protection
ระบบป้องกันการจ่ายไฟเกิน
Over Discharge Protection
ระบบป้องกันการคายประจุของแบตเตอรี่
Max Power Protection
ระบบป้องกันเมื่อใช้กำลังไฟสูงสุด
Short-Circuit Protection
ระบบป้องกันไฟลัดวงจร
Overtime Protection
ตัดไฟอัตโนมัติ เมื่อเครื่องทำงานเกิน 10 วินาที
Over Temperature Protection
ระบบป้องกันอุณหภูมิสูงเกินกำหนด
Overcharge Protection
ระบบป้องกันการชาร์จไฟเกิน
สรุป
สำหรับใครที่อยากมีพอตไฟฟ้าสาย กลิ่น ที่มีขนาดเล็กระดับนาโน แถมยังสามารถปรับไฟ และ ปรับรูลมได้อีกนั้นละก็ห้ามพลาด Drag Nano 2 เป็นอันขาด เพราะว่าทั้งใช้งานง่าย และ พกพาออกไปข้างนอกพร้อมฟังก์ชันใช้งานที่ครบครัน