ไม่มีสินค้าในตะกร้า
บทความ
ดีจริงไหม? ร่างกายของคุณจะเป็นอย่างไรเมื่อตัดสินใจเลิกบุหรี่
การสูบบุหรี่ไม่เคยสร้างผลดีใด ๆ ให้กับร่างกาย แถมภายในบุหรี่ 1 มวน ยังอัดแน่นไปด้วยสารอันตรายมากกว่า 2,000 ชนิด เช่น สารทาร์ สารคาร์บอนมอนอกไซด์ ยาเบื่อหนู ฯลฯ
มีผลกระทบทั้งกับคนสูบและผู้คนรอบข้างที่ต้องสูดดมควันบุหรี่มือสองอีกด้วย และถ้าหากคุณตัดสินใจ “เลิกบุหรี่” ตั้งแต่วันนี้
ร่างกายของคุณจะเป็นอย่างไร การเลิกบุหรี่แบบหักดิบมันทำยากจริงหรือไม่ วันนี้ทางร้านได้รวบรวมข้อมูลน่าสนใจ มาให้เพื่อนๆได้รู้กัน
Tips : บุหรี่ไฟฟ้า ไม่เกิดการเผาไหม้เหมือนบุหรี่จริง
สารบัญ
- แค่ตัดสินใจเลิกบุหรี่ก็เห็นผลลัพธ์ที่ดีภายใน 1 วัน
- เลิกบุหรี่แบบหักดิบ ช่วง 3-10 วันแรกคือเวลาวัดใจ
- เลิกบุหรี่ได้นานกว่า 1 เดือน ความเก่งคือคำตอบ
- เลิกบุหรี่ได้นานกว่า 1 ปี ร่างกายดี สุขภาพแข็งแรง
- สรุป
แค่ตัดสินใจเลิกบุหรี่ก็เห็นผลลัพธ์ที่ดีภายใน 1 วัน
เชื่อหรือไม่? หากคุณตัดสินใจ “เลิกบุหรี่” ตั้งแต่วันนี้ ผลลัพธ์ที่ร่างกายจะได้รับรวมถึงสิ่งที่คุณสามารถรู้สึกได้ทันทีภายใน 1 วัน
โดย 12 ชั่วโมงแรกเมื่อไม่ยุ่งเกี่ยวกับบุหรี่ ไม่ได้สูดดมควันพิษใด ๆ ปริมาณออกซิเจนในเลือดจะกลับมาทำงานตามปกติ
เนื่องจากสารคาร์บอนมอนอกไซด์ลดลง ที่ส่งผลเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจและยังไม่ก่อให้เกิดภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน โรคสโตรก ไปจนถึงอัมพฤกษ์ อัมพาต อีกด้วย
เลิกบุหรี่แบบหักดิบ ช่วง 3-10 วันแรกคือเวลาวัดใจ
ในช่วง 3-10 วันแรก ถือเป็นช่วงวัดใจแบบสุด ๆ สำหรับคนที่ตัดสินใจเลิกบุหรี่แบบหักดิบ เนื่องจากมันมีหลายปัจจัยที่ร่างกายมักถูกกระตุ้นให้มีความอยากนิโคติน
จนหลายคนหันกลับไปสูบซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่รู้จักจบสิ้น อย่างไรก็ตามหากคุณทำได้สำเร็จเมื่อผ่านไป 3 วัน
ภายในร่างกายจะปราศจากนิโคตินจนแทบหมด บางคนอาจเกิดอาการถอนนิโคตินได้บ้าง
ส่วนมากมักเกิดกับคนที่สูบบุหรี่จัดติดต่อกันนานเป็น 10 ปี เช่น ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน รู้สึกหงุดหงิด กระวนกระวายใจ นอนไม่หลับ ถึงได้บอกว่านี่คือช่วงวัดใจของคนเลิกบุหรี่อย่างแท้จริง
ทว่าเมื่อคุณค่อย ๆ ผ่านวันที่ 3 ไปจนถึงวันที่ 10 ได้สำเร็จ อาการอยากนิโคตินที่บอกไปนั้นจะลดลงจนแทบไม่ต้องการสูบมันอีกเลย
ตรงนี้ก็ยังถือเป็นจุดที่ยังสำคัญอยู่ คำแนะนำคือหากตั้งใจจะเลิกบุหรี่แบบจริงจังต้องไม่มีบุหรี่ติดไว้กับตัวหรือมีอยู่ในบ้าน
เพราะไม่อย่างนั้นถึงแม้จะเข้าสู่วันที่ 10 ก็ยังอาจจะอดใจไม่ไหว และหันกลับไปสูบมันอีก
พอทำมาถึงตรงนี้สิ่งที่สังเกตได้ชัดเจนมากสุดคือ สภาพร่างกายจะรู้สึกดีขึ้น สดชื่น ไม่เหม็นกลิ่นบุหรี่ตามปาก จมูก และระบบทางเดินหายใจ ระบบการไหลเวียนโลหิตเป็นปกติ
สมองและหัวใจได้รับออกซิเจนแบบเต็มที่ หรือใครที่ออกกำลังกายอยู่แล้ว และเลิกบุหรี่ได้จนถึงวันที่ 10 จะสัมผัสได้ถึงความสดชื่น อาการหอบเหนื่อยง่ายที่เคยเป็น จะลดลงแบบเห็นได้ชัดเจนมากๆ
เลิกบุหรี่ได้นานกว่า 1 เดือน ความเก่งคือคำตอบ
จากวันแรกจนถึงปัจจุบัน หากนับการเลิกบุหรี่ของตนเองแล้วปรากฏครบ 1 เดือน สิ่งที่สัมผัสได้ก็คือ อาการหงุดหงิด กระวนกระวาย จากปัญหาความอยากนิโคติจะไม่เกิดขึ้นอีกเลย
อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่สูบบุหรี่จัดแม้ผ่านไป 1 เดือน ก็ยังอาจมีอาการดังกล่าวได้ ทางร้านแนะนำให้ควรปรึกษาแพทย์
เมื่อเวลาผ่านไป 2-3 เดือน คุณจะรู้สึกทันทีว่าการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตคล่องตัวขึ้น ไม่หอบเหนื่อยง่าย ออกกำลังกายได้แบบเต็มที่
ระดับการไหลเวียนโลหิตตรงตามมาตรฐานเหมาะสม ลดการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน และเหนือสิ่งอื่นใดปอดจะค่อย ๆ เริ่มฟื้นฟูตัวเองทีละนิด
อาจต้องใช้เวลาแต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลยแล้วปล่อยให้ปอดโดนทำลายจนอาจเสี่ยงต่อโรคร้ายมากกว่าที่หลายคนคิด
เลิกบุหรี่ได้นานกว่า 1 ปี ร่างกายดี สุขภาพแข็งแรง
เมื่อเวลาผ่านไป 1 ปี ไม่อยากให้ทุกคนตั้งเป้าหมาย หรือนับตลอดว่าตนเองสามารถเลิกมาได้นานเท่าไหร่แล้ว
เพราะมันเหมือนกับสมองของคุณยังคงยึดติดกับเรื่องบุหรี่ เมื่อไหร่ที่สถานการณ์เป็นใจ หรือมีเหตุบังคับให้ต้องสูบก็มีโอกาสหวนกลับไปสู่วังวนเดิมได้ตลอด
ปล่อยตามธรรมชาติแค่รู้ว่าตนเองจะไม่หันกลับไปสูบบุหรี่อีกก็เพียงพอแล้วขณะที่เรื่องสุขภาพเมื่อเลิกบุหรี่ได้นานกว่า 1 ปี นี่คือความสำเร็จในการดูแลสุขภาพอย่างหนึ่ง
ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจได้มากถึง 50% รวมถึงโอกาสเสี่ยงต่อโรคมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งปอด มะเร็งโพรงจมูก มะเร็งลำคอ มะเร็งช่องปาก มะเร็งหลอดอาหาร ฯลฯ
มากไปกว่านั้นความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน เส้นเลือดสมองตีบ / แตก ก็ลดลงตามลำดับอย่างมีนัยสำคัญจนแทบใกล้เคียงกับคนที่ไม่เคยสูบเลยตั้งแต่แรกได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เหตุผลส่วนหนึ่งมาจากร่างกายของทุกคนฉลาดพอในการซ่อมแซมอวัยวะส่วนต่าง ๆ หากยังไม่ถึงขั้นเสียหายหนัก
สรุป
เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณตัดสินใจ “เลิกบุหรี่” สิ่งแรกที่ร่างกายจะได้รับคือสุขภาพที่เห็นผลภายใน 24 ชั่วโมง ระดับออกซิเจนมากขึ้น
เมื่อผ่านเวลาไป 3 เดือน การเล่นกีฬา ออกกำลังกาย เริ่มกลับมาอยู่ในสภาพปกติ ไม่หอบเหนื่อยง่ายเหมือนสมัยยังสูบ
จนใครก็ตามเมื่อเลิกสูบบุหรี่ได้เกิน 1 ปี นั่นถือเป็น Mission Complete หนึ่งในชีวิต และควรภาคภูมิใจไปกับมัน
อย่างไรก็ตามอยากแนะนำเพิ่มเติมว่า อย่าไปยึดติดจำนวนวัน เดือน ปี ที่ตนเองได้เลิกมา แต่ให้ลืมเรื่องของบุหรี่ออกไปจากหัวสมองเลย
ขณะที่ร่างกายเองจะค่อย ๆ ฟื้นฟูสภาพของอวัยวะที่เคยถูกทำลายด้วยสารเคมีจากบุหรี่ แม้อวัยวะบางส่วนอาจจะไม่ได้กลับมาแข็งแรงสมบูรณ์เหมือนเดิม 100%
แต่ก็ยังดีกว่าไม่กล้าเปิดใจทำในสิ่งที่ควรเลย ใครที่อยากมีชีวิตยาวนานขึ้น ได้อยู่กับคนที่คุณรักต่อไปอีกนานๆ การเลิกบุหรี่เป็นอีกวิธีที่ช่วยดูแลชีวิตตนเองและคนรอบข้างได้เป็นอย่างดี